แฮกเกอร์โจมตีระบบข้อมูล The 1 Card ของ Central สูญเสียข้อมูลลูกค้ากว่า 5 ล้านราย

แฮกเกอร์โจมตีระบบข้อมูล The 1 Card ของ Central สูญเสียข้อมูลลูกค้ากว่า 5 ล้านราย

แฮกเกอร์กลุ่มหนึ่งได้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า The 1 Card ซึ่งเป็นโปรแกรมสะสมคะแนนของเครือเซ็นทรัล โดยขโมยข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลการทำธุรกรรมกว่า 5 ล้านราย

ทั้งนี้ ข้อมูลที่ถูกแฮกมีทั้งชื่อ-นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล รวมถึงประวัติการใช้งานในโปรแกรมดังกล่าว ล่าสุดกลุ่มแฮกเกอร์ได้ประกาศว่าจะปล่อยข้อมูลของผู้ใช้ 500,000 รายต่อสัปดาห์ผ่านทางออนไลน์ โดยส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้อย่างมากมาย

แนะนำแนวทางในการป้องกันและรักษาความปลอดภัย

ในช่วงเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลถูกขโมยและแพร่ระบาดอย่างนี้ การรักษาความปลอดภัยข้อมูลจึงกลายเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากขึ้นกว่าเดิม บริษัทและบุคคลทั่วไปควรตระหนักถึงความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์ และควรลงทุนในเครื่องมือที่ช่วยป้องกันและตรวจสอบการโจมตีเหล่านี้อย่างเข้มงวด

หนึ่งในเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์คือ WatchGuard ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องธุรกิจจากการโจมตีทางไซเบอร์ทั้งในรูปแบบของไวรัส, แรนซัมแวร์, การโจมตีแบบฟิชชิง และภัยคุกคามอื่น ๆ โดย WatchGuard ช่วยให้ธุรกิจสามารถตรวจจับการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นในระบบและสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงช่วยเพิ่มความมั่นคงในการปกป้องข้อมูลของลูกค้าและองค์กรจากการแฮกที่อาจเกิดขึ้น

สิ่งที่ผู้ใช้ควรทำในสถานการณ์นี้:

1. เปลี่ยนรหัสผ่าน: ผู้ที่มีบัญชีในระบบ The 1 Card ควรเปลี่ยนรหัสผ่านโดยทันที และเลือกใช้รหัสผ่านที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น พร้อมเปิดการยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (2FA) เพื่อเสริมความปลอดภัย
   
2. ตรวจสอบกิจกรรมบัญชี: ผู้ใช้ควรตรวจสอบการทำธุรกรรมหรือกิจกรรมที่เกิดขึ้นในบัญชีของตนเองอย่างละเอียด หากพบสิ่งผิดปกติ ควรรีบติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
   
3. ใช้เครื่องมือป้องกันการโจมตี: เครื่องมืออย่าง WatchGuard ช่วยเพิ่มการปกป้องระบบจากการโจมตีในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การป้องกันการฟิชชิงที่มักจะเป็นช่องทางสำคัญที่แฮกเกอร์ใช้เพื่อขโมยข้อมูล

การรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามในยุคดิจิทัลปัจจุบัน โดยการใช้เครื่องมือที่เชื่อถือได้และมีประสิทธิภาพในการป้องกันภัยคุกคามจะช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ.

เสริมความปลอดภัยด้วยการยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (2FA) จาก WatchGuard

หนึ่งในฟีเจอร์สำคัญที่ช่วยเสริมความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูล คือ การยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (2FA) ที่ WatchGuard สนับสนุน ซึ่งเป็นการเพิ่มระดับความปลอดภัยอีกขั้น โดยการยืนยันตัวตนจะไม่เพียงแค่ใช้รหัสผ่านเท่านั้น แต่ยังต้องยืนยันด้วยรหัส OTP (One Time Password) หรือการยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชันอื่น ๆ ที่เชื่อมต่อกับระบบ ซึ่งช่วยลดโอกาสที่แฮกเกอร์จะเข้าถึงบัญชีหรือข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้แม้จะมีข้อมูลรหัสผ่านอยู่ในมือก็ตาม

การเปิดใช้งาน 2FA เป็นหนึ่งในวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการปกป้องบัญชีจากการโจมตีทางไซเบอร์ และสามารถช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในระบบความปลอดภัยขององค์กรและผู้ใช้

Features & Benefits

• การรับรองความถูกต้องออนไลน์ (Push) แบบออฟไลน์ (รหัส QR และ OTP)
• การตรวจสอบ DNA ของอุปกรณ์มือถือเพื่อการจับคู่ข้อมูลระบุตัวตน
• รวมการป้องกันการเข้าสู่ระบบ VPN, Cloud และ PC แล้ว
• พอร์ทัลการลงชื่อเพียงครั้งเดียวบนเว็บ (SSO)

WatchGuard Cloud ช่วยให้คุณจัดการและรายงานความปลอดภัยของคุณจากแพลตฟอร์มที่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพเพียงแพลตฟอร์มเดียว ไม่ว่าคุณต้องการลดหรือขจัดต้นทุนโครงสร้างพื้นฐาน เการตั้งค่าของคุณ ลดความซับซ้อนของเครื่องมือการจัดการความปลอดภัยของคุณ หรือเพิ่มการมองเห็นเครือข่ายของคุณมากขึ้น WatchGuard Cloud สามารถช่วยได้หากท่านสนใจทดลองใช้สามารถ ลงทะเบียนเพื่อขอทดลองได้ฟรี 30 วัน

Credit https://www.watchguard.com