วิธีตวรจสอบโทรศัพท์ของคุณว่าถูกแฮกแล้วหรือยัง ? ในยุคที่เทคโนโลยีทันสมัยเพิ่มความสะดวกสบายผู้คนทั่วโลกเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนมากกว่าคอมพิวเตอร์
ทำให้สมาร์ทโฟนได้กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของเราอย่างไรก็ตาม การพึ่งพาอุปกรณ์เหล่านี้เพิ่มมากขึ้นยังทำให้พวกเขาเสี่ยงต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์อีกด้วย การที่เรารู้ว่าโทรศัพท์ถูกแฮกเป็นเรื่องสำคัญในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล ต่อไปนี้เป็นสัญญาณเก้อย่างที่ช่วยบอกว่าโทรศัพท์ของคุณอาจถูกแฮก
- มีแอปใหม่ที่ติดตั้งโดยอัตโนมัติ
หากคุณสังเกตเห็นไอคอนใหม่บนสมาร์ทโฟน หรือพบว่ามีการติดตั้งแอปเองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากคุณ เป็นไปได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ แฮกเกอร์มักจะติดตั้งแอปปลอมบนอุปกรณ์โดยอัตโนมัติเพื่อขโมยข้อมูล - Data ข้อมูลหมดแบบไม่คาดคิด
แอปที่ต้องการแบนด์วิธสูงอย่าง YouTube และ TikTok สามารถใช้ data ของคุณได้มาก แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าสมาร์ทโฟนของคุณใช้ข้อมูลจำนวนมากเมื่อคุณไม่ได้ใช้งาน? มีความเป็นไปได้ว่าโทรศัพท์ของคุณกำลังส่งข้อมูลไปยังแฮกเกอร์ หรือบางทีอาจกลายเป็นส่วนหนึ่งของ botnet - โทรศัพท์ถูกตัดการเชื่อมต่อ
หากคุณไม่สามารถใช้งานระบบเครือข่ายกะทันหัน (ไม่สามารถส่งและรับสายหรือข้อความได้) ปัญหามักเกิดจากการขัดข้องของโทรคมนาคมในพื้นที่ แต่มีความเป็นไปได้ว่าหมายเลขโทรศัพท์ของคุณถูกโอนไปยังผู้ให้บริการรายอื่นแล้ว โดยเป็นส่วนหนึ่งของการขโมยข้อมูลระบุตัวตน - รหัสผ่านคลาวด์ของคุณถูกรีเซ็ต
Google Cloud และ iCloud มีประโยชน์มากในการปกป้องรูปภาพและข้อมูลอื่นๆ ไม่ให้สูญหาย และแฮกเกอร์มักจะกำหนดเป้าหมายไปที่พื้นที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์ด้วยเหตุผลดังกล่าว หากคุณได้รับข้อความจาก Apple/Google เกี่ยวกับคำขอรีเซ็ตรหัสผ่าน แสดงว่ามีการพยายามแฮกระบบของคุณ - โทรศัพท์มีการโทรและส่งข้อความแบบเป็นความลับ
แฮกเกอร์สามารถเรียกใช้โทรศัพท์ที่ติดมัลแวร์จากระยะไกลเพื่อโทรและส่งข้อความลับ เมื่อโทรไปยังหมายเลขโทรศัพท์อัตราพิเศษสามารถเรียกเก็บเงินจากบัญชีคุณ และเราจะไม่รู้จนกว่าจะมีการเรียกเก็บเงินครั้งถัดไป - browning ของคุณถูกขัดจังหวะด้วยป๊อปอัปต่อเนื่อง
หากสมาร์ทโฟนของคุณยังคงแสดงโฆษณาป๊อปอัป แสดงว่าโทรศัพท์ของคุณอาจติดแอดแวร์หรือมัลแวร์ - สมาร์ทโฟนของคุณทำงานช้าลง
มีเหตุผลหลายข้อที่ทำให้สมาร์ทโฟนของคุณช้าลงเช่น แอปใหม่ทำงานได้ไม่ดีนักบนอุปกรณ์รุ่นเก่า หรือมีมัลแวร์ที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง - สมาร์ทโฟนของคุณร้อน
แอปที่ใช้ทรัพยากรมาก เช่น เกม จะทำให้โทรศัพท์ของคุณร้อนขึ้น แต่หากโทรศัพท์ของคุณร้อนอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณไม่ได้ใช้งานใดๆ อาจติดมัลแวร์ - แบตเตอรี่ของคุณหมดเร็วกว่าปกติ
แบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟนจะเสื่อมลงตามอายุ ซึ่งหมายความว่าแบตเตอรี่จะหมดเร็วขึ้น แต่หากคุณสังเกตเห็นว่าอายุการใช้งานแบตเตอรี่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด อาจบ่งชี้ว่ามัลแวร์กำลังทำให้แบตเตอรี่ลดลงอย่างรวดเร็ว
เพื่อลดความเสี่ยงเหล่านี้ การนำมาตรการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่แข็งแกร่งมาใช้ถือเป็นสิ่งสำคัญ ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส Watchguard EPDR Adaptive Defense 360 สามารถปกป้องอุปกรณ์ของคุณจากมัลแวร์และการละเมิดที่อาจเกิดขึ้น
ปกป้องการท่องเว็บออนไลน์ของคุณประกอบด้วยการตรวจจับพฤติกรรมเพื่อป้องกัน และบล็อกการโจมตีแบบไม่มีไฟล์ตามสคริปต์ที่ฝังอยู่ในไฟล์ Office ตัวแอปพลิเคชันสามารถตรวจจับการทำงานที่ผิดปกติที่ เพื่อป้องกันการโจมตีได้ หรือใช้ช่องโหว่จากเว็บเบราว์เซอร์ ของแอปอื่นๆ เช่น Java Adobe Reader, Adobe Flash, Office ฯลฯ หากท่านสนใจทดลองใช้สามารถ ลงทะเบียนเพื่อขอทดลองได้ฟรี 30 วัน
Credit https://www.pandasecurity.com/