13 เคล็ดลับความปลอดภัยไซเบอร์สำหรับธุรกิจ 2023

13 เคล็ดลับความปลอดภัยไซเบอร์สำหรับธุรกิจ 2023

13 เคล็ดลับความปลอดภัยไซเบอร์สำหรับธุรกิจ 2023 ธุรกิจขนาดเล็กถูกโจมตีทางไซเบอร์สูงถึง 43% ต่อปี การที่เป็นธุรกิจขนาดเล็กไม่ได้แปลว่าคุณจะปลอดภัยมากกว่าบริษัทใหญ่

บางครั้งอาจตรงกันข้ามเนื่องจาก

  • ไม่มีทีมไอที
  • ไม่มีการเตรียมความพร้อมรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
  • มีงบไม่พอในการจัดซื้อซอฟท์แวร์ป้องกัน หรือจ้างทีมงานไอที
  • พนักงานภายในองค์กรขาดความรู้

แม้แต่ธุรกิจขนาดกลางก็อาจเสี่ยงต่อการโจมตีทางไซเบอร์ที่เป็นอันตรายได้ การปกป้องธุรกิจของคุณจากอาชญากรไซเบอร์ และแฮกเกอร์มีความสำคัญมากกว่าที่เคย การลงทุนในแผนการป้องกัน เรามีเคล็ดลับคำแนะนำความปลอดภัยทางไซเบอร์ 13 ข้อสำหรับธุรกิจที่สามารถช่วยปกป้องธุรกิจของคุณได้

1. มีการประเมินความเสี่ยงของระบบ
ก่อนลงทุนซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส , VPN และมาตรการป้องกันอื่นๆ คุณควรดำเนินการประเมินความเสี่ยง ซึ่งรวมถึงช่องโหว่ภายในระบบ เพื่อให้คุณทราบว่าระบบของคุณมีความเสี่ยงต่อภัยคุกคามรูปแบบใดมากที่สุด

2. ติดตั้งซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส
ธุรกิจขนาดเล็กสามารถปกป้องระบบจากภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นได้โดยการติดตั้งซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส ระบบป้องกันไวรัสจำนวนมากสามารถตรวจจับภัยคุกคามได้ก่อนที่จะทำการโจมตีผ่านระบบความปลอดภัยของบริษัท ซึ่งทำหน้าที่เป็นด่านแรกในการป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ นอกจากนี้โปรแกรมป้องกันไวรัสสำหรับธุรกิจขนาดเล็กสามารถปรับเพิ่มหรือลดจำนวนตามความใช้งาน และติดตั้งได้ง่าย

3. ใช้ระบบ VPN
เพิ่มการปกป้องธุรกิจของคุณในขณะที่พนักงานทำงานจากที่บ้านหรือใช้ระบบรีโมท ให้ใช้ระบบ VPN ทำการเชื่อมต่อเครือข่ายที่ปลอดภัยแก่ผู้ใช้ และปกป้องข้อมูลที่แฮกเกอร์อาจใช้ประโยชน์จากช่องโหว่นี้ได้

4. รักษาความปลอดภัยเครือข่าย
เครื่องมือที่คุณใช้ป้องกันระบบครือข่าย และโครงสร้างระบบมีความสำคัญ ระบบป้องกันที่สามารถป้องกันมัลแวร์ เข้ารหัส SSID และซ่อนข้อมูลเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ การลงทุนด้านเทคโนโลยีการป้องกันตัวใหม่ที่รองรับระบบ EDR ที่ล้ำสมัย เช่น WatchGuard EDR และ Panda Adaptive Defense สามารถช่วยให้คุณรักษาความปลอดภัยเครือข่ายของคุณจากการโจมตีทั้งจากภายนอกและภายใน

5. อัปเดทดูแลการใช้งานซอฟท์แวร์อยู่เสมอ
การดูแลอุปกรณ์ของคุณให้ปราศจากฝุ่นและสิ่งสกปรกเป็นสิ่งสำคัญ แต่การรักษาระบบภายในนั้นสำคัญกว่า ติดตั้งซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยล่าสุด และอัปเดตระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์เพื่อให้แน่ใจว่ามีการติดตั้งแพทช์ใหม่เพื่่ออุดช่องโหว่ภายในระบบของคุณ

ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสจะตรวจสอบอุปกรณ์ทั้งหมดในเครือข่ายของคุณที่สามารถเข้าถึงได้ ตรวจสอบการเข้าสู่ระบบและอัปเดตความปลอดภัยโดยอัตโนมัติ Patch Management สามารถช่วยป้องกัน และสนับสนุนการจัดการช่องโหว่อย่างต่อเนื่องแบบอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้องค์กรของคุณสามารถตรวจพบช่องโหว่ และทำการวิเคราะห์ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการแพตช์ช่องโหว่เหล่านั้น เพื่อให้โครงสร้างพื้นฐานของคุณปลอดภัย

6. หลีกเลี่ยงการเปิด Remote Destop protocal (RDP)
ในเครือข่ายที่มีการควบคุมอย่างสมบูรณ์แบบ สถานการณ์ที่อาจเป็นอันตรายต่อระบบจะลดลงจนเกือบเป็นศูนย์ อย่างไรก็ตามเมื่อพนักงานไอทีกลับบ้าน ไม่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลควบคุมทำให้เกิดความเสี่ยงขึ้น ตัวเลือกที่ดีคือแยกระบบออกจากกันโดยไม่มีการเชื่อมต่อกับเครือข่ายส่วนตัว หรืออุปกรณ์ภายนอก

7. เปิดระบบรักษาความปลอดภัย Zero Trust

การโจมตีระบบสามารถเกิดขึ้นได้จากทุกที่ เพื่อให้ระบบธุรกิจของคุณปลอดภัยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ให้ตั้งค่าและเปิดใช้งานการรักษาความปลอดภัยแบบ Zero Trust ระบบนี้จะทำการกำหนดผู้ใช้งานจากภายในและภายนอก ต้องทำการตรวจสอบตัวตนก่อนเข้าระบบ และยังสามารถแบ่งกลุ่มผู้ใช้งานตามสิทธิ์ให้เข้าถึงได้เฉพาะส่วนเท่านั้น

8. ใช้โซลูชั่นที่ปลอดภัย
การชำระเงิน การโอนข้อมูล และการดำเนินการที่ละเอียดอ่อนอื่นๆ สิ่งสำคัญคือต้องรักษาความปลอดภัยและความถูกต้องของข้อมูลบริษัทต้องมีระบบการเข้ารหัสที่ปลอดภัย นอกจากนี้ธุรกิจขนาดเล็กควรใช้ระบบการยืนยันตัวตนแบบสองชั้นไว้ในโปรโตคอลระบบของตน

9. อบรมพนักงานของคุณ
พนักงานในบริษัทคือแนวป้องกันด่านแรก เมื่อเผชิญกับการโจมตีทางไซเบอร์ ดังนั้นพวกเขาจำเป็นต้องรู้ถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น การฝึกอบรมให้ความรู้แก่พนักงานควรเน้นที่แนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัย ระเบียบการทำงาน ข้อห้าม และวิธีแก้ปัญหาที่เกิดจากทางไซเบอร์

10. มีการใช้รหัสผ่านที่รัดกุม
รหัสผ่านที่รัดกุมสามารถสร้างความปลอดภัยให้กับธุรกิจขนาดเล็กทุกประเภท ด้วยสร้างรหัสผ่านที่มีความยาวอย่างน้อยแปดตัว โดยใช้อักขระที่เป็นตัวอักษร ตัวเลขคละกัน ตัวพิมพ์ใหญ่ ตัวพิมพ์เล็ก และสัญลักษณ์เพื่อเพิ่มความปลอดภัย นอกจากนี้ควรมีการเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นครั้งคราว ห้ามใช้รหัสผ่านเดิมเป็นเวลานานกว่าหนึ่งปี

11. หมั่นสำรองข้อมูล
แม้ว่าจะมีโซลูชันที่ดีแล้ว การสำรองข้อมูลของบริษัททั้งหมดอย่างสม่ำเสมอ ทำให้คุณปลอดภัยจากอันตรายของการโจมตีทางไซเบอร์ และแรนซัมแวร์ เสริมความปลอดภัยให้ระบบสำรองข้อมูลด้วย Anti-Tamper for windows shadow copy ให้สามารถยังกู้คืนไฟล์ได้หลังจากเกิดการโจมตีของ ransomware โดยไฟล์ที่ทำการสำรองไว้นี้จะไม่สามารถถูกแก้ไขหรือลบโดยพลการได้ ฟังก์ชั่นนี้ได้รับการเพิ่มเข้ามาใน Endpoint Security รุ่น

  • WatchGuard EPP
  • WatchGuard EPDR
  • Panda Endpoint Protection Plus
  • Panda Adaptive Defense 360

12. ตรวจสอบคู่ค้าของคุณ
หากคุณเป็นพันธมิตรกับบริษัทอื่นๆ ให้ตรวจสอบกลุ่มพนักงานของพวกเขาก่อนที่จะให้สิทธิ์เข้าถึงระบบของคุณ ซึ่งสามารถนำระบบ Zero trust มาใช้ป้องกันเพิ่มเติม และเราขอแนะนำให้คุณทำการตรวจสอบประวัติก่อนที่จะให้สิทธิ์การเข้าถึงเครือข่าย

13. ปกป้องอุปกรณ์ที่ตั้งในบริษัทของคุณ
แม้ว่าแฮกเกอร์จะขึ้นชื่อเรื่องการโจมตีจากระยะไกล แต่พวกเขาอาจเลือกที่จะเข้าถึงอุปกรณ์โดยตรงหากมีโอกาส เก็บอุปกรณ์ของคุณให้ห่างจากบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต และเปิดใช้งานการล้างข้อมูลจากระยะไกล ในกรณีที่อุปกรณ์สูญหายหรือถูกขโมย

หากคุณประสบปัญหาในการติดตามข้อมูลเพื่ออัปเดทตัวซอฟต์แวร์ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดบนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อทั้งหมดของคุณ ให้พิจารณาใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส โซลูชันความปลอดภัยทางไซเบอร์ชั้นนำทึ่มีให้เลือกอยู่มากมาย และราคาไม่แพง เช่น Adaptive Defense 360 ที่นำมาโดยระบบ EDR สำหรับป้องกัน ransomware และภัยคุกคามทางไซเบอร์ทุกชนิด ไม่หน่วงเครื่อง ใช้ทรัพยากรเครื่องน้อยที่สุด พร้อมตัว Web Access Control ตั้งค่าการเข้าถึงเว็บไซต์ของเครื่องได้ตามช่วงเวลา หรือตั้งค่า blacklist , whitelist เป็นต้น หากท่านสนใจสามารถขอทดลองใช้ได้ฟรี 30 วัน

Credit https://www.pandasecurity.com/

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *