ภาพรวมของผลกระทบทั่วโลกจากการโจมตี ransomware

ภาพรวมของผลกระทบทั่วโลกจากการโจมตี ransomware

ภาพรวมของผลกระทบทั่วโลกจากการโจมตี ransomware การโจมตีด้ว ransomware กลายเป็นหนึ่งในภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่สำคัญที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ซึ่งส่งผลกระทบต่อบุคคล ธุรกิจ และรัฐบาลทั่วโลกส่งผลร้ายแรงไม่ว่าจะเป็นด้านการเงิน การละเมิดข้อมูล และการหยุดชะงักของโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ในภาพรวมนี้ เราจะสำรวจผลกระทบทั่วโลกของการโจมตี ransomware ซึ่งรวมถึงความถี่ กลุ่มเป้าหมายที่ถูกโจมตี และผลกระทบที่ตามมา

ความถี่ของการโจมตีด้วย ransomware

การโจมตีด้วย ransomware มีมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตามรายงานของ Cybersecurity Ventures ค่าความเสียหายทั่วโลกของคาดว่าจะสูงถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2021 โดยในปี 2020 มีการโจมตีเพิ่มขึ้นถึง 62% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยแนวโน้มคาดว่าจะสูงขึ้นไปเรื่อยๆ เมื่ออาชญากรไซเบอร์มีวิธีการใหม่ๆ ที่ใช้ในการเข้าหาเป้าหมาย และมีความซับซ้อนมากขึ้น

เป้าหมายการโจมตีของ ransomware

ในขณะที่การโจมตีด้วย ransomware เป้าหมายสามารถเป็นใครก็ได้ แต่ภาคธุรกิจอุตสาหกรรมบางประเภทมักตกเป็นเป้าหมายมากกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ ซึ่งรวมถึงกลุ่มโรงพยาบาล การเงิน และภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มโรงพยาบาลได้กลายเป็นเป้าหมายหลักสำหรับการโจมตี ransomware เนื่องจากมีข้อมูลผู้ป่วยที่ละเอียดอ่อนและข้อมูลสำคัญของบริการด้านการดูแลสุขภาพ ในช่วงครึ่งปีแรกปี 2021 มีรายงานการโจมตีอย่างน้อย 50 รายการในกลุ่มโรงพยาบาลของสหรัฐฯ โดยอาจส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยหลายล้านราย

ภาคการเงิน และรัฐบาลยังเป็นเป้าหมายยอดนิยมสำหรับการโจมตี เนื่องจากมีโอกาสได้รับผลประโยชน์ทางการเงินและการเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ในปี 2021 การโจมตี Colonial Pipeline ทำให้เกิดการหยุดชะงักอย่างมากในการจัดหาเชื้อเพลิงตามแนวชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา จากการโจมตีดังกล่าวมีการจ่ายค่าไถ่ 4.4 ล้านดอลลาร์ให้กับผู้โจมตี

ผลกระทบที่เกิดจากการโจมตีด้วย ransomware

ผลที่ตามมาจากการโจมตีของ ransomware ความรุนแรงที่ส่งผลกระทบตามมาในทันทีคือผลด้านการเงิน การโจมตีด้วยส่งผลให้เกิดการสูญเสียทางการเงินจำนวนมากสำหรับบุคคล และองค์กร รวมถึงค่าไถ่ ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ และเสียหายต่อชื่อเสียงขององค์กร ในบางกรณีองค์กรอาจถูกบังคับให้จ่ายค่าไถ่เพื่อเข้าถึงไฟล์ที่ถูกเข้ารหัสได้อีกครั้ง

การโจมตีด้วย ransomware อาจทำให้ข้อมูลสำคัญสูญหายได้เช่นกัน ผู้โจมตีอาจเข้ารหัสไฟล์ ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงได้จนกว่าจะมีการจ่ายค่าไถ่ ในบางกรณีผู้โจมตีอาจขโมยข้อมูลที่ละเอียดอ่อนและขู่ว่าจะเปิดเผยต่อสาธารณะเว้นแต่จะจ่ายค่าไถ่ ซึ่งอาจส่งผลเสียหายอย่างมากต่อชื่อเสียงขององค์กรและผลทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้น เช่น การละเมิดกฎข้อบังคับด้านการปกป้องข้อมูล (GDPR หรือ PDPA)

นอกจากผลกระทบทางการเงินและข้อมูลแล้ว การโจมตีด้วย ransomware ยังสามารถขัดขวางโครงสร้างพื้นฐานและบริการที่สำคัญอีกด้วย ในภาคการดูแลสุขภาพ สามารถรบกวนการดูแลผู้ป่วย และแม้แต่เป็นอันตรายต่อชีวิต ในกรณีของการโจมตีท่อส่งน้ำมัน การหยุดชะงักของการจัดหาเชื้อเพลิงทำให้เกิดการหยุดชะงักทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก ศักยภาพของอาชญากรไซเบอร์ที่จะทำลายโครงสร้างพื้นฐานและบริการที่สำคัญถือเป็นข้อกังวลที่สำคัญสำหรับรัฐบาลและองค์กรต่างๆ ทั่วโลก

สรุป

โดยสรุปแล้วการโจมตีด้วย ransomware ได้กลายเป็นภัยคุกคามระดับโลกที่สำคัญ โดยมีผลกระทบในวงกว้างต่อบุคคล ธุรกิจ และรัฐบาล การโจมตีเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยขึ้นเรื่อยๆ โดยอุตสาหกรรมบางประเภท เช่น การดูแลสุขภาพ การเงิน และรัฐบาล มักตกเป็นเป้าหมายมากขึ้น สิ่งสำคัญสำหรับบุคคลและองค์กรที่จะต้องดำเนินการเพื่อป้องกันตนเองจากการโจมตีของ ransomware เช่น การใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่แข็งแกร่ง และมีการสำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอเช่นตัว WatchGuard EPDR และ Panda Security เป็นสองตัวเลือกที่ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้งานจริง ซึ่งมีการป้องกันแบบเรียลไทม์จากภัยคุกคามทางไซเบอร์ และผสานรวมเข้ากับผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัย WatchGuard อื่นๆ เช่น Adaptive Defense 360 นำเสนอโซลูชันป้องกันไวรัสบนคลาวด์ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูงและอัลกอริทึมการเรียนรู้ของเครื่องเพื่อตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ มีการรายงานและการแจ้งเตือนที่ครอบคลุม ทำให้องค์กรตรวจสอบความปลอดภัยของเครือข่ายได้ง่าย ด้วยโซลูชันป้องกันไวรัสบนคลาวด์เหล่านี้ องค์กรสามารถอุ่นใจได้เมื่อรู้ว่าเครือข่ายของตนได้รับการปกป้องจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ หากท่านสนใจสามารถขอทดลองใช้ได้ฟรี 30 วัน

Credit https://www.bleepingcomputer.com/

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *